การเทรดโลหะมีค่า

ขณะนี้ มีผู้ซื้อและผู้ขายหลายรายที่ร่วมเทรดในตลาดทองคำ โดยปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ ได้แก่ อุปสงค์ด้านอัญมณี อุปสงค์ด้านการลงทุน อุปสงค์ของธนาคารกลาง และอุปสงค์ของผู้ผลิตเทคโนโลยี

ทองคำส่วนใหญ่ได้รับการรีไซเคิลจากสต็อกในปัจจุบัน แต่อุปทานทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นในช่วงหนึ่ง จึงมีการทำเหมืองทองคำทั่วโลก โดยขณะนี้ จีนเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด ซึ่งมีประมาณการว่าทองคำทั้งหมดที่ขุดได้ในปี 2017 สูงกว่า 190,000 ตัน

มีวิธีต่างๆ ที่จะลงทุนในทองคำจริงและเป็นเจ้าของโลหะมีค่า โดยรวมถึงการซื้อเหรียญทอง ทองคำก้อนและทองคำแท่ง อย่างไรก็ตาม ในการเทรด เราจะมาดูกันว่าเทรดเดอร์จะสามารถเข้าถึงและเทรดทองคำอย่างไรในกรอบระยะเวลาอันสั้น

หลักๆ แล้ว การดำเนินการเหล่านี้จะทำผ่านกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ETF) และสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD)

ในระยะสั้น ราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน แต่สำหรับการเทรดในระยะสั้น อุปสงค์จะมีผลมากที่สุด
สิ่งใดที่ทำให้อุปสงค์ของทองคำเพิ่มขึ้นและลดลง
การปกป้องความมั่งคั่งและการหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย: ในเวลาที่มีความไม่แน่ไม่นอนและตลาดโลกอาจมีความเสี่ยงมากขึ้น นักลงทุนและเทรดเดอร์จะมองหาสินทรัพย์ทางการเงินที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องพอร์ตของตนเอง สินทรัพย์ปลอดภัยจะรวมถึงพันธบัตรรัฐบาล แต่ทองคำมักถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยระดับสูงสุด ในเวลาที่เกิดความกังวลทางการเมือง เมื่อผลตอบแทนของหุ้น พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ดูมีความเสี่ยง นักลงทุนและเทรดเดอร์ก็จะต้องการซื้อทองคำ ส่งผลให้อุปสงค์ทองคำเพิ่มขึ้น ราคาจึงปรับตัวตามไปด้วย
มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ: เช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกส่วนใหญ่ ทองคำจะได้รับการแสดงราคาและเทรดกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหลัก ดังนั้น ราคาทองคำจึงมักผกผันกับมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ หากเป็นไปตามปกติ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงจะช่วยหนุนราคาทองคำและอาจผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ส่วนดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นมีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง
ความสัมพันธ์กันของอัตราเงินเฟ้อ: เมื่อมีการวิเคราะห์สถิติในระยะยาว อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักเกิดขึ้นพร้อมกับราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงระหว่างช่วงระยะเวลาที่เกิดเงินเฟ้อขึ้นทั่วโลกในทศวรรษที่ 1970 และราคาทองคำก็ปรับตัวบวกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในระยะสั้น โดยอาจเปลี่ยนแปลงไปในช่วงหนึ่ง

เช่นเดียวกันกับทองคำ โลหะเงินเป็นโลหะมีค่าสำหรับมนุษย์มาตั้งแต่ช่วงก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้ และมีการนำมาใช้ในรูปแบบของเงินเป็นเวลาหลายพันปี โดยเงินปอนด์สเตอร์ลิงได้ชื่อนี้มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าในตอนแรกนั้น เงินปอนด์เท่ากับโลหะเงินสเตอร์ลิงหนึ่งปอนด์ (lb.) นอกจากนี้ โลหะเงินยังมีบทบาทในทางประวัติศาสตร์ในรูปแบบของเงินตราและใช้เป็นอัญมณี แต่มีการใช้ในทางอุตสาหกรรมมากกว่าทองคำ โดยรวมถึงแวดวงอิเล็กทรอนิกส์ การถ่ายภาพ อุปกรณ์เคมี และสำหรับใช้ในการเร่งปฏิกิริยาเคมี

คุณสามารถเทรดทั้งทองคำและโลหะเงินกับ Hantec Markets โดยเป็นสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) และเช่นเดียวกับการเทรดอื่นๆ คุณจะต้องพิจารณาเพื่อซื้อต่ำและ/หรือขายสูง

การตัดสินใจซื้อหรือขายสามารถเกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน และควรเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเทรดที่คุณได้ทดลองและทดสอบแล้ว จึงแนะนำอย่างยิ่งให้เปิดบัญชีทดลองเพื่อปรับแผนการเทรด CFD ทองคำและโลหะเงิน

ในฐานะเทรดเดอร์ คุณควรเข้าใจถึงสิ่งที่มีอิทธิพลต่อตลาดโลหะมีค่าที่คุณต้องการเทรดเป็นอย่างดี นอกจากนี้ คุณควรสร้างแผนการเทรดที่แข็งแกร่งและตั้งขีดจำกัดความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด โดยคุณควรตั้ง Stop สำหรับออกและจำกัดการขาดทุนไว้ตามขอบเขตที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ราคาเสนอซื้อ
อัตราที่คุณสามารถขายสกุลเงินฐานซึ่งในกรณีของเราก็คือยูโร และขายสกุลเงินที่โควต กล่าวคือเยนญี่ปุ่น

ราคาเสนอขาย (หรือราคาเสนอ)
อัตราที่คุณสามารถซื้อสกุลเงินฐานซึ่งในกรณีของเราก็คือปอนด์อังกฤษ และขายสกุลเงินที่โควต กล่าวคือเยนญี่ปุ่น

สเปรด
ส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับราคาเสนอขาย

ค่าเงิน
มูลค่าของเงินสกุลหนึ่งซึ่งแสดงโดยเทียบกับเงินอีกสกุล ความผันผวนของค่าเงินจะขึ้นอยู่กับปัจจัยจำนวนมาก รวมถึงอุปสงค์และอุปทานของตลาดและ/หรือการดำเนินการในตลาดที่เปิดอยู่ของรัฐบาลหรือธนาคารกลาง

ล็อต
ปกติแล้ว ขนาดสัญญาจะอ้างอิงตามระบบล็อต และสำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ 1 ล็อตจะเท่ากับสกุลเงินฐาน 100,000 หน่วย

Pip
อัตราความเคลื่อนไหวขั้นต่ำ

ประเภทบัญชี
Hantec Markets นำเสนอประเภทบัญชีการเทรดจริงและบัญชีทดลอง ซึ่งรวมถึงบัญชีร่วมและบัญชีองค์กร