การเทรดดัชนี

ก่อนที่เราจะดูลักษณะเฉพาะของดัชนีหรือค่าเฉลี่ย ก่อนอื่น เราจะต้องศึกษาสินทรัพย์ในตลาดเงินอ้างอิงซึ่งรวมอยู่ในดัชนีหุ้น ได้แก่ หุ้น หลักทรัพย์หรือตราสารทุน

หุ้นคือหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งซึ่งได้รับการกำหนดว่าเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นเจ้าของบริษัท โดยปกติแล้วจะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้เจ้าของหุ้นมีสิทธิ์ในรายได้และสินทรัพย์ของบริษัท สิทธิ์การออกเสียงในการตัดสินใจสำคัญเกี่ยวกับบริษัทที่การประชุมสามัญประจำปี (AGM) และการจ่ายปันผล หากมี (ส่วนจากกำไรของบริษัท)

นอกจากนี้ หากบริษัททำกำไรได้และประสบความสำเร็จ ความหวังก็คือราคาหุ้นของบริษัทจะปรับตัวสูงขึ้นและเจ้าของหุ้นจะได้ผลกำไรส่วนต่างจากมูลค่าหุ้นที่ถือ หุ้นและหลักทรัพย์จะซื้อและขายผ่านตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก

ค่าเฉลี่ยจะคำนวณจากราคาหุ้นที่เลือกภายในดัชนี (ดังที่เราเห็นทางด้านล่าง) และใช้โดยนักลงทุนในฐานะวิธีวัดผลการดำเนินงานของตลาดต่างๆ ที่ดัชนีหุ้นสะท้อนอยู่ ซึ่งมีวิธีหลักในการคำนวณมูลค่าดัชนีหุ้นสองวิธี ได้แก่ ดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยราคาหรือดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด

อธิบายง่ายๆ โดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลทางคณิตศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการคำนวณเหล่านี้อย่างเจาะลึก ดัชนีทั้งคู่จะแตกต่างกันดังนี้

– ดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยราคาจะใช้ราคาของหุ้นแต่ละตัวเพื่อกำหนดการถ่วงน้ำหนักหุ้นเพื่อให้กำหนดค่าดัชนี
– ดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาดจะใช้มูลค่าของบริษัทเพื่อกำหนดการถ่วงน้ำหนักหุ้นโดยเฉลี่ย
Dow Jones Industrial Average เป็นตัวอย่างดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยราคา ส่วน S&P 500 เป็นดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด

สหรัฐฯ – S&P 500, Dow Jones Industrial Average (DJIA), Nasdaq Composite และ Nasdaq 100, Russell 2000

ยุโรป – FTSE 100 (สหราชอาณาจักร), DAX (เยอรมนี), CAC 40 (ฝรั่งเศส), EURO STOXX 50 (ภาคพื้นยุโรป), FTSE MIB (อิตาลี), IBEX 35 (สเปน), SMI (สวิสเซอร์แลนด์)

เอเชีย/แปซิฟิก – Nikkei 225 (ญี่ปุ่น), S&P/ASX 200 (ออสเตรเลีย), Shanghai Composite (จีน), Hang Seng (ฮ่องกง), KOSPI (เกาหลีเหนือ), Nifty (อินเดีย)

ปัจจัยหลายอย่างอาจส่งผลต่อระดับดัชนีหุ้น แต่ปัจจัยหลักจะได้แก่
ข้อมูล: รวมถึงข้อมูลทั้งเศรษฐศาสตร์มหภาคและเศรษฐศาสตร์จุลภาค

– ข้อมูลเศรษฐศาสตร์มหภาคเป็นข้อมูลสำคัญที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจหรือภูมิภาค และอาจรวมถึงข้อมูลการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อและผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
– ข้อมูลเศรษฐศาสตร์จุลภาคเป็นข้อมูลของบริษัทที่อาจรวมถึงการประกาศผลกำไรและรายได้ของบริษัทรายไตรมาสตามปกติระหว่างฤดูประกาศผลการดำเนินงาน การประกาศข้อมูลเหล่านี้จะส่งผลต่อหุ้นรายตัวและหากตลาดเคลื่อนไหวอย่างมากและ/หรือหากหุ้นรายตัวมีการถ่วงน้ำหนักอย่างมากในค่าเฉลี่ยตราสารทุน ก็จะสามารถส่งผลต่อดัชนี/ค่าเฉลี่ยโดยรวมได้
ธนาคารกลาง: ในระบบเศรษฐกิจที่สำคัญส่วนใหญ่ ธนาคารกลางจะควบคุมนโยบายการเงินผ่านการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมโดยชะลอหรือส่งเสริมการเติบโตโดยขึ้นอยู่กับการคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นหรือลงในอนาคต ซึ่งอาจกระทบต่อหุ้นรายตัวและขยายไปถึงดัชนีหุ้นที่หุ้นเหล่านั้นรวมอยู่

ภูมิรัฐศาสตร์: เป็นความคิดเห็นกว้างๆ ที่อาจรวมถึงผลกระทบทางการเมือง สิ่งแวดล้อม ภูมิศาสตร์และสังคมที่มีต่อเศรษฐกิจและตลาดเงิน ตัวอย่างของภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ สงครามการค้า (สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน 2018-2020) เหตุการณ์ทางการเมืองครั้งใหญ่ (การเลือกตั้งของสหรัฐฯ และ Brexit) และเหตุการณ์ทางภูมิศาสตร์ (หรือที่เรียกว่า “เหตุสุดวิสัย”) เช่น ภัยพิบัตินิวเคลียร์ Fukushima Daiichi ในปี 2011

ราคาเสนอซื้อ
อัตราที่คุณสามารถขายสกุลเงินฐานซึ่งในกรณีของเราก็คือยูโร และขายสกุลเงินที่โควต กล่าวคือเยนญี่ปุ่น

ราคาเสนอขาย (หรือราคาเสนอ)
อัตราที่คุณสามารถซื้อสกุลเงินฐานซึ่งในกรณีของเราก็คือปอนด์อังกฤษ และขายสกุลเงินที่โควต กล่าวคือเยนญี่ปุ่น

สเปรด
ส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับราคาเสนอขาย

ค่าเงิน
มูลค่าของเงินสกุลหนึ่งซึ่งแสดงโดยเทียบกับเงินอีกสกุล ความผันผวนของค่าเงินจะขึ้นอยู่กับปัจจัยจำนวนมาก รวมถึงอุปสงค์และอุปทานของตลาดและ/หรือการดำเนินการในตลาดที่เปิดอยู่ของรัฐบาลหรือธนาคารกลาง

ล็อต
ปกติแล้ว ขนาดสัญญาจะอ้างอิงตามระบบล็อต และสำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ 1 ล็อตจะเท่ากับสกุลเงินฐาน 100,000 หน่วย

Pip
อัตราความเคลื่อนไหวขั้นต่ำ

ประเภทบัญชี
Hantec Markets นำเสนอประเภทบัญชีการเทรดจริงและบัญชีทดลอง ซึ่งรวมถึงบัญชีร่วมและบัญชีองค์กร